รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ในหลาย ๆ วัฒนธรรมโบราณ และศาสนา เช่นในอียิปต์ กรีซ อินเดีย จีน และเอาหลัก (เวียดนาม) วัวได้รับการบูชา ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในศาสนาฮินดู พระกฤษณะ เป็นคนเลี้ยงวัวตั้งแต่เด็ก เขายังถูกเรียกว่า โกวินดา และโกพาลา แปลว่า “เพื่อนและผู้คุ้มครองวัว” แม้แต่วันนี้ ในเนปาล และบางส่วนของอินเดีย มันผิดกฎหมายที่จะฆ่า สัตว์ที่อ่อนโยนนี้ ในการบรรยายหลายครั้งของท่าน ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ เปิดเผยคุณสมบัติพิเศษ ของวัวและเหตุผล ที่พวกเขาสมควรได้รับการปฏิบัติ ด้วยความรักและความเคารพวัวมาจากระดับชั้นที่ห้า เขาเสียสละตัวเขาเองที่จะมา และดูเหมือนสัตว์ อย่างนั้น แค่เพื่อช่วย ในบางกรณี หรือในอดีตชาติ เราไม่มีเครื่องมือเหล่านี้ เพื่อไถนา วัว วัวตัวผู้ลงมาช่วย แต่เราทำอะไร? เธอให้นมแก่ลูก ๆ ของเรา เขาไถนาให้เรา แล้วเราก็แค่ฆ่าเขา เพื่อกินเมื่อไหร่ก็ตาม นี่ไม่ใช่ การกระทำของการสำนึกในบุญคุณ เรา มนุษย์ เรารู้หลักศีลธรรม ถ้าใครทำอะไร เมตตาต่อเรา เราก็ติดหนี้ เขาหรือเธอ เราพูด “ขอบคุณ ขอบคุณมาก ๆ” แล้วเราปฏิบัติ ต่อผู้ให้ประโยชน์อย่างวัว ด้วยวิธีโหดร้ายทารุณได้อย่างไร ตั้งแต่วันที่พวกเขาเกิดมา จนกระทั่งวันที่พวกเขาตาย? คุณไม่เห็นสารคดี มากมาย เกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาปฏิบัติกับวัว ก่อนที่พวกเขาถูกฆ่าด้วยซ้ำ มันเลวร้ายทุกวันนี้ พวกเราส่วนมาก โตมาด้วยนมวัว แล้วคุณฆ่าแม่ของคุณ ได้อย่างไร? ในจีนและ ในเอาหลัก (เวียดนาม) แต่ก่อน คุณก็รู้ ในเอเชีย เรามี แม่คนที่สอง อย่างนั้น เหมือนแม่คนที่ เป็นสตรีร่ำรวย คนที่ไม่ต้องให้อาหารทารก เพราะมันลำบาก มากเกินไป แล้วเธอก็มักจะจ้าง แม่อีกคนหนึ่ง คนที่มีทารกของตัวเอง แต่มีนมเยอะ พวกเขาทั้งคู่ก็สามารถดื่ม จากนมนั้น เราเรียกว่า ...แม่นม ใช่ คุณฆ่าแม่นม อย่างนั้นได้อย่างไร? เราไม่เรียกวัวว่าแม่นม แม่นม หรือ อาจจะ มารดาอุปถัมภ์ หรือแม่บุญธรรม หรือแม่บำรุงเลี้ยง แล้วเรามีความเคารพ ต่อแม่ ๆ เหล่านี้เช่นกัน คุณก็รู้ รองจากแม่ของเรา ดังนั้น มันเหมือนกันถ้าเราทำมัน กับวัว ราวกับคุณฆ่าแม่ ที่ให้นมคุณ ดังนั้น มันเหลือเชื่อ ว่าคนทำอย่างนั้นได้อย่างไรวัวมาจากระดับจิตสำนึก ที่สูงมาก เพื่อช่วยให้พรและสร้างความสมดุล แต่โลกของเรา แต่ในความโง่เขลา ทางจิตวิญญาณของเรา เราลงมือกระทำที่ชั่วร้าย แก่พวกเขาอย่างน่าสยดสยอง ขณะที่มนุษยชาติพัฒนาขึ้น เราต้องหยุดวิถีที่ป่าเถื่อน เราต้องเคารพและ เรียนรู้จากสัตว์อ่อนโยนเหล่านี้ ที่ส่องสว่างความรักอันไร้ตัวตน และความดีงามวัวมี พีคิว (คุณสมบัติเป็นบวก) 38% อีคิว (คุณสมบัติเป็นลบ) 0% เอสคิว (คุณสมบัติเป็นนักบุญ) 40% จีคิว (คุณสมบัติที่ดีงาม) 50% วัวมาจาก เกือบจะระดับชั้นที่ห้า ชายแดนชั้นที่ 4 และ 5 วัว วัวทุกตัว มาจากที่นั่น แล้วพวกเขากินวัว คุณไม่รู้ ว่าคุณกำลังทำอะไรกับใคร ตลอดเวลา คุณดูถูกสัตว์ คุณไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยซ้ำ ดูวัวซิ พวกเขากินแต่หญ้า แล้วพวกเขาให้นมแก่คุณ ชีส ทุกอย่างจริง ๆ แล้วพวกเขายังฆ่าและกินพวกเขา วัวเป็นเหมือนแม่ ของทารกเกือบทุกคน ในทั้งดาวเคราะห์นี้ ดังนั้น ถ้าฉันบอกคุณให้เป็น มังสวิรัติ (วีแกน) มันถูกต้อง แม้ว่าฉันไม่ได้บอกคุณทั้งหมดนี่ วัวก็เป็นผู้ให้ประโยชน์ ต่อมนุษยชาติ เราไม่ควรแตะต้องพวกเขานมนั้นแท้จริง ไม่มีประโยชน์นัก อย่างที่มันอาจจะดูเป็นเช่นนั้น หรือเราอาจจะได้รับการบอกเล่า ตั้งแต่นักวิทยาศาสตร์ได้พบ ว่านมวัวสำหรับมนุษย์เป็นหนึ่งใน สารก่อภูมิแพ้ 8 อันดับแรก เด็กเล็กและผู้ใหญ่ สามารถมีปฏิกิริยาแพ้ได้ด้วย ผลิตภัณฑ์นม ยังถูกเชื่อมโยง กับรูปแบบต่าง ๆ ของมะเร็ง รวมทั้งโรคต่าง ๆ ที่สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตเช่น โรคโครห์น และโรคลิสเทริโอซิส และถึงแม้ว่า ผู้คนมักจะเชื่อ ว่านมมีแคลเซียมจำนวนมาก การย่อยของนม มักจะใช้แคลเซียม มากกว่าที่มันมีอยู่ ดังนั้นอันที่จริงแคลเซียม ถูกเอาออกจากร่างกาย เพื่อที่จะย่อยนม ในความเป็นจริงแล้ว ประเทศต่าง ๆ ที่บริโภคนมปริมาณมากที่สุด เป็นประเทศเดียวกัน ที่เป็นโรคกระดูกพรุนมากที่สุด และกระดูกที่อ่อนแอที่สุด ดังนั้น คุณก็เห็น หลักฐานพูดต่างกัน แหล่งแคลเซียมมังสวิรัติ อีกด้านหนี่ง มีปริมาณมากพออย่างเท่า ๆ กัน และมีการดูดซึมที่ง่ายกว่ามาก ดีต่อสุขภาพมากกว่าสำหรับร่างกายไม่นานมานี้ มันมี การวิจัยกล่าวว่า ระหว่างเวลา ที่เด็ก ๆ อยู่ที่โรงเรียน พวกเขาถูกบังคับให้ดื่มนม และกินผลิตภัณฑ์นม และระหว่างเวลานั้น พวกเขามีอาการไอ หรืออาการหอบมากขึ้น แต่อาการเหล่านี้หยุดลง ทันทีในระหว่าง ฤดูร้อน ตอนที่เด็ก ๆ ไม่ไปโรงเรียนและ ไม่กินนมบ่อยขนาดนั้น และอีกตัวอย่างหนึ่ง คือในผู้หญิงสูงอายุ สภาพของกระดูกที่เปราะบาง เกิดขึ้นบ่อยในประเทศต่าง ๆ ที่ผลิตภัณฑ์นม ถูกบริโภคในปริมาณมาก นอกจากนี้มันได้แสดงให้เห็นแล้วว่า มนุษย์สูญเสียความสามารถ ในการย่อยแลคโตส พอเราอายุสี่ขวบ ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหา ในการดูดซึมโปรตีนจากนม หลังจากนั้น ดังนั้นนอกจากนี้ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเดียว ที่ดื่มนม ของสิ่งมีชีวิตอื่นดังนั้นคุณสามารถเปลี่ยนจาก นมวัวเช่นเดียวกับ อุตสาหกรรมที่ใช้สัตว์ ที่ใช้แพะ เพื่อปลูก - เราสามารถปลูกผลไม้ และผักอินทรีย์แทน นมถั่วเหลืองดีมาก และเรามีแม้แต่น้ำนมข้าว เรามีนมอัลมอนด์ เรามีของอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย และนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งทำให้เราไม่มีอาการแพ้ ให้เราไม่มีปัญหาสุขภาพ นั่นคือทางออกที่ดีที่สุด และเป็นตัวอย่างที่ประเสริฐที่สุดอายุขัยปกติของวัว คือ 15-20 ปี อย่างไรก็ตาม อายุขัยโดยเฉลี่ย ของวัวนม คือแค่ 4-7 ปี เพื่อที่จะผลิตปริมาณมาก การหลั่งเต้านมที่ไม่ดีต่อร่างกาย ที่เรียกว่าน้ำนม วัวที่อ่อนโยนถูกทำให้ เจ็บปวดทางกายภาพ และทางอารมณ์อย่างน่ากลัว ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกระทั่ง พวกเขาไม่มีประโยชน์อีกต่อไป และถูกฆ่าเป็นเนื้อสัตว์ในประเทศอุตสาหกรรม ส่วนมาก พวกเขากักขังวัว แล้วพวกเขาบังคับวัวตัวเมีย ให้กินสารเคมีจำนวนมาก เพื่อผลิตนมมากขึ้น หรือพวกเขาบังคับและใส่ ยาบางอย่างหรือ อะไรสักอย่าง เพื่อบังคับพวกเขาให้มีนมมากขึ้น แล้วผลที่ได้ กระดูกของวัวก็เน่าเปื่อย และวัวแทบจะไม่สามารถ ยืนรับร่างกายตัวเองได้ วัวจำนวนมาก ไส้ร่วงออกมา กระเพาะร่วงออกมา แล้วมันแทบจะเดินไม่ได้ เพราะกระดูกของมัน อ่อนแอมาก มันผลิตนมมากเกินไป ฉันไม่คิดว่าเราควร จะอยู่รอด จากความทุกข์ของผู้อื่น แม้จะเป็นความทุกข์ของวัวผลิตภัณฑ์นมรวมอยู่ด้วยกัน กับเนื้อสัตว์เพราะความโหดร้าย และการทรมานนั้นเหมือนกัน และผลที่ได้ คือความตายอย่างน่าสะพรึงกลัว ของสัตว์ที่น่าสงสาร หลังจากเพียงไม่กี่ปีของการท้อง และให้นมไม่หยุดหย่อน วัวนมถูกฆ่า เพื่อเอาเนื้อมากินเช่นกัน ทารกของพวกเขาก็ถูกขายเช่นกัน และถูกฆ่าเป็นเนื้อลูกวัว ดังนั้น มันไม่มีความเมตตา ในธุรกิจผลิตภัณฑ์นมเช่นกันฉันได้เห็นวิดีโอคลิปสั้น ๆ ที่มีชายแข็งแรงสองคน ที่ไปที่ฟาร์ม มีวัวเยอะมากที่นั่น วัวกำลังกินหญ้า พวกเขาโยนลูกวัวสองตัว ไปบนรถบรรทุกของพวกเขา ที่มันว่างเปล่าด้านหลัง พวกเขาโยนลูกวัวสองตัว เข้าไปในนั้น แม่ลูกวัวทั้งสองก็วิ่งตามพวกเขา ร้องไห้จะเป็นจะตาย มันแบบ “อ้า อ้า...” มันใจสลายมาก สำหรับฉันที่ได้เห็น ฉันร้องออกมาดัง ๆ ฉันบอก “หยุดมัน!” ไม่มีใครทนมันได้! ถ้าเกิดมันเป็นคุณล่ะ? ตอนที่ฉันเห็นมัน มันรู้สึกเหมือน ลูกของฉันเองถูกพรากไป ใจสลายมาก ยากมากที่จะทนดูแม่วัว หัวใจสลาย แล้ววิ่งไล่ตามรถบรรทุก เธอเอาแต่วิ่ง วิ่ง และกรีดร้องดัง ๆ แม้แต่พระเจ้าก็สามารถได้ยินเธอ
