สมาธิเป็นเกราะป้องกันของคุณ

เพราะว่า สมาธิเป็นเกราะป้องกันของคุณจริง ๆ นั่นคือ ตอนที่คุณ เชื่อมต่อมากขึ้น กับพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าของคุณเอง และพลังสากล ที่ค้ำจุนคุณ โอบกอดคุณไว้แน่นและปกป้องคุณ โอบกอดคุณด้วยความรัก และพร และการปกป้องทั้งหมด เป็นจริงเช่นนั้น ไม่มีพลังอื่นใด ที่จะปกป้องคุณได้ในโลกนี้

(สวัสดีค่ะอาจารย์)สวัสดี เพื่อน ๆ คุณอยากจะ อยู่ในระดับจิตวิญญาณที่สูงขึ้นมั้ย? ( ค่ะ อาจารย์ ) (ใช่ค่ะ) แน่นอน คุณจะได้ แต่จำเป็นต้องพยายามอีกนิดหน่อย ร่างกายเรานั้น บางครั้งไม่ค่อยเชื่อฟัง (ค่ะ อาจารย์) ฉันคิดว่าบางที... ย้ายไปอยู่ออฟฟิศเล็ก ๆ ทำงานที่นั่นคนเดียวจะดีกว่า ส่วนออฟฟิศใหญ่นั้นให้พวกคุณ ตอนนี้เรามีตัวเลือก ใช่ไหม? (ค่ะ) ดีกว่าก็เพราะว่า พวกคุณนั่งสมาธิที่นั่นมาก่อน และคุณรู้สึกชินกับมัน (ใช่ค่ะ) มันก็ดี คุณโอเคด้วยใช่ไหม พวกคุณ? ( ใช่ค่ะ อาจารย์ ) น่าจะ ใช่ไหม? (ค่ะ อาจารย์) ฉันเป็นเจ้านาย ใช่ไหม? (แน่นอนเลยค่ะ อาจารย์) เวลาฉันบอกอะไร ก็ต้องอย่างนั้น (ใช่ค่ะ อาจารย์) เจ้านายแบบไหนกันที่ต้องทำงาน แบบ… “ฉันทำงานเหมือนสุนัข” (โอ อาจารย์) เหมือนที่บีทเทิล บอกว่า “ฉันทำงานเหมือนสุนัข” ไม่ ฉันไม่รู้ว่า สุนัขของฉันทำงานเหมือนฉัน บ้างหรือเปล่า ไม่ ไม่เคย พวกเขามีชีวิตที่ดี ได้รับความรักและเอาใจ และ โอ! ชีวิตที่สวยงาม เป็นสุนัขที่โชคดี ไม่ใช่หลายตัวจะโชคดีอย่างนั้น ในโลกนี้ (จริงค่ะ อาจารย์) น่าส่งสาร ใช่ ฉันคิดว่า เมื่อฉันเห็นตัวสกังก์ (ค่ะ อาจารย์) มาในบริเวณที่ฉันอยู่ และบอกข้อความบางอย่าง เช่น “อย่าไป อยู่นี่” เรื่องอื่น ๆ ฉันบอกคุณไม่ได้ ไม่บอกดีกว่า มิฉะนั้นแล้ว มันอาจจะมีปัญหาอีก ข่าวดีอยู่แล้ว พวกเขาแค่บอกให้ฉันอยู่ที่นี่ (โอ ดีค่ะ) ฉันหมายถึงอยู่ตรงที่ฉันอยู่ “อยู่ที่นี่ ไม่ต้องย้าย ไม่ต้องไป” (โอ ดีค่ะ) เพราะมีบางสิ่งที่เป็นลบ กำลังรอฉันอยู่บนถนน หรือมีงูอยู่ตรงนั้น จะมีปัญหาอีก และพวกเขา ยังพูดนั่นพูดนี่อีก พวกเขาทั้งหลาย มาแล้วมาอีก แล้วยังมีอย่างอื่น แม้แต่กบก็มา (วาว อาจารย์) ฉันประทับใจมาก และตื้นตันกับความรัก พวกเขาปลอบใจฉันได้มากทีเดียว (ฉันดีใจค่ะ)

และเมื่อคืน ในนิมิตอีกเหมือนกัน อาจารย์ในระดับห้า ก็มาบอกฉัน ฉันมีการเชื่อมต่อ กับท่านมาก่อนเนื่องจากหนังสือ และลูกศิษย์ของท่าน (ค่ะ) ท่านคืออาจารย์เคียร์ปาล ซิงห์ ถ้าคุณอยากรู้ว่าใคร ในนิมิตนั้น ท่านมาบอกฉัน “อย่าไป” (วาว) คำพูดต่อไปฉันบอกคุณไม่ได้ มันเป็นเรื่องอื่น ๆ มันจะเป็นจริง เมื่อถึงเวลา และไม่ไกลเกินไป ฉันดีใจ แต่ฉันไม่บอกคุณจะดีกว่า (เข้าใจค่ะ อาจารย์) ให้อภัยฉันนะ คุณจะรู้เมื่อถึงเวลานั้น (ค่ะ อาจารย์)

จากประสบการณ์ของฉัน ไม่ต้องพูดถึงว่า ฉันเป็นอาจารย์หรืออะไร คนที่ไม่นั่งสมาธิพอ จะมีปัญหา นั่นแหละฉันจึง อยากมีที่ให้พวกคุณ ได้นั่งสมาธิด้วยกันเต็มที่ (ค่ะ อาจารย์) (ขอบคุณค่ะ ท่านอาจารย์) พร้อมกันกับ พี่น้องคนอื่น ๆ พวกคุณนั่งสมาธิมากขึ้นย่อมดีกว่า ทุกคนนะ ฉันเองก็พยายามอย่างมาก และเวลาของฉันน้อยลงด้วย เพราะงานเยอะมาก คุณเข้าใจความหมายนะ อาจจะคนผมบลอนด์ตรงนั้น เธอรู้นิดหน่อยว่า ฉันมีความกดดันแค่ไหน กับงานที่เยอะแยะ (ค่ะ อาจารย์) เอาล่ะ ตอนนี้ คุณมีออฟฟิศใหญ่ขึ้น ทำความสะอาดข้างในข้างนอก ขอบประตูหน้าต่าง และทุกสิ่ง และที่จับ และอื่น ๆ แล้วนั่งสมาธิพร้อมกันทุกวัน (ค่ะ อาจารย์) ทุกวันคุณผลัดกันเตือน ให้ทุกคนมานั่ง ถ้ามีคนหนึ่งไม่มานั่ง คุณลากเขามา (ค่ะ อาจารย์) ด้วยโทรศัพท์ โทรไปตามเรื่อย ๆ จนกว่าเธอมา คุณต้องผลัดกันทำอย่างนั้น เพื่อเตือนกันและกัน เพราะว่า รวมกันเรามั่นคง เพื่อนร่วมงานของคุณหลายคน นั่งสมาธิไม่ค่อยดี ไม่ฟังคำแนะนำของฉัน พวกเขาจึงออกไป หรือมีทัศนะที่เป็นลบ หรือคิดทางลบ หรือถูกพลังทางลบลากดึง แล้วก็ออกไป คุณเข้าใจนะ? (ค่ะ) และแล้ว พวกเขาเสียใจ ดังนั้นมันไม่ใช่ว่า พวกเขาไม่รู้ เพียงแต่ว่ามันสายเกินไป สายเกินไปที่จะรู้สึกเสียใจ สายเกินไปที่อยากจะกลับมา (ค่ะ) พวกเขาทุกคนอยากกลับมา เพียงแต่พวกเขา จะเขียนหรือไม่เขียน พวกเขารู้สึกเสียใจอยู่ภายใน พวกเขารู้ว่าที่ไหนดีที่สุด

ดังนั้นพวกคุณ ทุกคนเตือนกันและกันให้นั่งสมาธิ บอกกลุ่มอื่น ๆ ด้วย บอกเรื่องนี้ให้พวกผู้ชายของเราด้วย แต่พวกเขาก็ทำดี โดยเฉพาะเพื่อนบ้านของคุณ พวกเขาทำดีมากทุกวัน พวกเขานั่งสมาธิอย่างจริงจัง ตามเวลา คนที่ฉันรู้จัก หรือถ้าไม่ ก็ภายหลัง ฉันบอกพวกเขาให้เตือนกันและกัน แล้วพวกเขาก็นั่งสมาธิ ตามเวลาทุกคน เฉพาะเมื่อ ฉุกเฉินเร่งด่วนจริง ๆ ไม่สามารถรออีกหนึ่งชั่วโมง งั้นก็ควรทำงานก่อน มิฉะนั้น ต้องหยุดทุกอย่างไว้ ไปนั่งสมาธิและค่อยกลับมา เพราะว่าคุณจะ เข้มแข็งขึ้นและได้รับพรมากขึ้น เพื่อทำงานอันสูงส่งของคุณต่อ

เพราะคุณยังต้องการทำงาน เพื่อโลก ใช่ไหม? (ใช่ค่ะ อาจารย์) คุณยังต้องการทำงานด้วยกันกับฉัน ใช่ไหม? (ใช่ค่ะ อาจารย์) แน่นอน ฉันรู้ นั่นแหละ นี่คือคำตอบ นี่คือตัวช่วย มิฉะนั้นแล้ว คุณจะ ไม่สามารถยืนหยัด เพราะว่าแม้แต่พระพร คุณก็ไม่สามารถย่อยได้ และอาจทำให้คุณมีปัญหา หรือพลังทางลบดึงคุณไว้ ทำให้คุณมีปัญหา ในไบเบิลมีกล่าวไว้ว่า “เมื่อสองคนนั่งด้วยกันในนามของฉัน ฉันจะอยู่กับพวกเขา” หมายถึงพลังอาจารย์ จะอยู่กับพวกเขา และ สนับสนุน ประคับประคองพวกเขา และอวยพรพวกเขา เพื่อให้พวกเขาทำงานต่อได้ เพราะว่างานที่พวกคุณทำ ไม่ใช่ง่าย ๆ มันไม่ง่าย คุณจะเห็นว่าบางคนล้มเหลว เพราะพวกเขา ไม่เข้มแข็งพอที่จะทำต่อ ฉันจริงจังนะ (ค่ะ อาจารย์) แม้แต่ฉัน ถ้าฉันนั่งสมาธิไม่พอ ฉันจะมีปัญหาเหมือนกัน เจ็บป่วย มันไม่ใช่แค่ล้มทางจิตวิญญาณ แต่ร่างกายด้วย ป่วยมากขึ้นหรือป่วยอาการใหม่ หรือมีปัญหามากขึ้น ถึงแม้คุณนั่งสมาธิ บางครั้งคุณอาจจะรู้สึก เนื่องจากคุณต้องทำงาน แล้วไปนั่งสมาธิตามเวลา คุณอาจจะรู้สึกเหนื่อย แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น มันคือพระพร (ค่ะ อาจารย์) ออกไปเดิน หรือออกกำลังกาย นิดหน่อย ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น แล้วกลับมากองทัพของเรา พวกเราแบกภาระจริง ๆ เราแบกภาระของโลก พวกคุณรู้? (ค่ะ) เราแบกภาระของโลกไว้จริง ๆ และแบกไว้ใน กองทัพเล็ก ๆ ของเรา เพื่อทำงานให้โลก

พี่น้องทั้งหลายของเรา ทั่วโลก ก็กำลังช่วยเหมือนกัน พวกเขาทำงานหนักเหมือนกัน ตามความสามารถและเวลา และสถานการณ์ เพราะพวกเขาก็มีครอบครัว (ค่ะ) พวกเขาทำเท่าที่ทำได้ และพยายามสุดความสามารถแล้ว คุณเห็นได้จากรายการทีวี ทั้งหลายของเรา (ใช่ค่ะ อาจารย์) จากงานที่พวกเขาทำ เราควรทำในส่วนของเรา ฉันทำในส่วนของฉันด้วยเหมือนกัน บางครั้งฉันบ่นกับพวกคุณ ฉันพูดนั่นพูดนี่ แต่ฉันก็ยังคงทำอยู่ ฉันไม่ได้บ่นจริง ๆ ฉันแค่บอกพวกคุณ เพื่อให้รู้ว่าฉันอยู่กับพวกคุณ ฉันก็ทำงานหนักด้วยเหมือนกัน (ค่ะ อาจารย์) และอธิบายให้คุณรู้ด้วยว่า ทำไมต้องอย่างนี้อย่างนั้น ซึ่งบางครั้งฉันก็ยุ่งยากหลายอย่าง

แต่คนที่ไม่นั่งสมาธิให้ดี ไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาจะถูกผลกระทบทางลบ จากโลก รุมเร้าพวกเขา เพราะไม่ใช่ว่าคนทั้งโลก จะนั่งสมาธิ ไม่ได้เป็นวีแกนด้วยซ้ำ ดังนั้นพลังทางลบ คอยกดดันเรา มันก็เหมือนคุณอยู่ในทะเลลึก แม้ว่าคุณมี ถังออกซิเจนและอุปกรณ์ มันก็ไม่เหมือนอยู่บนบก (ค่ะ) และถ้าอุปกรณ์ของคุณรั่ว ยกตัวอย่าง เหมือนการนั่งสมาธิไม่พอ คุณก็จบสิ้นอยู่ตรงนั้น แรงดันของน้ำรอบตัวคุณ จะบดขยี้คุณ (ค่ะ อาจารย์) ดังนั้น ได้โปรด เรามีนั่งสมาธิกลุ่มทุกวัน คุณให้มีคนหนึ่ง ผลัดกันทุกวัน และห้องนั่งสมาธินี้ น่าจะใหญ่พอ สำหรับทุกคน ดังนั้นคุณนั่งห่างกัน (ค่ะ อาจารย์) คุณทำงานที่โน่นมาก่อน พวกคุณส่วนใหญ่ ดังนั้นน่าจะชินแล้ว กับเครื่องปรับอากาศ (ค่ะ) เอาผ้าห่มไปด้วยทุกครั้ง เผื่อคุณรู้สึกหนาวมาก (ค่ะ อาจารย์) ก็คลุมไว้ เท่านั้นแหละ และทำกวนอิม (การทำสมาธิแห่งเสียงภายใน) มันจะทำให้คุณอบอุ่นได้เร็ว ถ้าคุณรู้สึกหนาว (ค่ะ อาจารย์)

เพราะการนั่งสมาธิ คือเกราะป้องกันของคุณจริง ๆ เมื่อคุณเชื่อมต่อมากขึ้น กับพลังอันยิ่งใหญ่ของคุณเอง และพลังของจักรวาล ที่คุ้มครองคุณ ปกป้องคุณอย่างมั่นคง โอบอุ้มคุณด้วยความรัก ด้วยพระพร และปกป้องคุณ มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ไม่มีพลังอื่นใดสามารถ ปกป้องคุณได้ในโลกนี้ นั่นคือความลับ (ค่ะ อาจารย์) นั่นคือความลับของจักรวาล ที่ไม่ใช่จะมีหลายคนเข้าใจ หรือมีสิทธิที่จะรู้ แต่ว่าบางครั้ง ผู้คนไม่รู้คุณค่าของมัน แล้วพวกเขาก็ลำบาก และเจ็บป่วย และอื่น ๆ แล้วพวกเขาออกไป และทานยา แล้วขอบคุณหมอ มันก็ดีถ้าคุณ ไม่เข้มแข็งด้านจิตวิญญาณ และกรรมมันทับถมคุณ คุณก็ต้องไปหาหมอ แต่พวกเรามีการรักษาอยู่ภายใน และเราสามารถ เข้มแข็งและสุขภาพดีเสมอ เพื่อช่วยตัวเราเองและ แบกภาระของโลก จนกว่ามนุษย์จะตื่นขึ้นมากกว่านี้ และเข้ามาช่วยกัน

รวมกันเรามั่นคง มันเป็นอย่างนั้น ถ้าคุณนั่งคนเดียวในห้องคุณ มันก็ง่ายที่จะตามใจตัวเอง และไปนอน (ใช่ค่ะ อาจารย์) แต่ถ้าคุณนั่งด้วยกัน คุณมีพลังช่วยค้ำจุนมากขึ้น เหมือนคุณมีวงแหวนล้อมรอบ ก็เหมือนกับคุณมี ตะเกียบหนึ่งกำ คุณหักมันไม่ได้ แต่ถ้าคุณแยกมันออกทีละอัน หรือแม้แต่ 2 หรือ 3 คุณหักมันได้ (ค่ะ อาจารย์) ง่ายขึ้น แต่คุณไม่สามารถ หักตะเกียบทั้งกำ ที่มัดรวมกันแน่นหนา (ค่ะ อาจารย์) ดังนั้นตอนนี้เรามีห้องนั้น เป็นทางออกที่ดี (ค่ะ ขอบคุณท่านอาจารย์) นั่งห่างกัน ห่างเท่าที่คุณทำได้ ( พวกเราจะทำค่ะ อาจารย์ ) ดีแล้ว มีที่ว่างมากขึ้น ( ค่ะ อาจารย์ ) และบอกฝ่ายครัวด้วย ให้นั่งสมาธิ (ค่ะ อาจารย์) 4 ชั่วโมงอย่างน้อย แต่คุณควรนั่งสมาธิก่อนนอน หลังตื่นนอนด้วย (ค่ะ อาจารย์) คุณนั่งบนเตียงของคุณหรือโซฟา หรือบนพื้น ที่ไหนก็ตาม และนั่งสมาธิก่อนที่คุณนอน แบบนี้แล้วคุณจะเหมือน อยู่ในสภาวะหลับสมาธิทั้งคืน (ค่ะ อาจารย์)

พยายามใช้ทุกเวลานาที ให้เป็นประโยชน์ นั่งสมาธิ แม้แต่ในห้องน้ำ ไม่ว่าเวลาใด ที่ไหน ขอให้เชื่อมต่อกับพระเจ้าไว้เสมอ เมื่อคุณมีการเชื่อมต่อมากขึ้น มันก็ดีขึ้นสำหรับคุณ ดีขึ้นสำหรับความเป็นอยู่ของคุณ และดีขึ้นสำหรับพลังด้านจิตวิญญาณ เพื่อช่วยคนที่อ่อนแอ ที่จริงเราก็ต้องช่วยพวกเขา เพราะพวกเขาอ่อนแอเกินไป ดังนั้นเราต้องเข้มแข็ง ต้องอยู่ที่นั่น เพื่อทุกคน (ค่ะ อาจารย์) อย่างน้อยสำหรับช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะช่วงเวลานี้ เนื่องจากเวลานี้เรามี ความยุ่งยากมากมายในโลก พวกคุณทุกคนก็รู้ ใช่ไหม? (ค่ะ)

มีคำถามอื่นอีกมั้ย ที่รัก? ไม่มี? ( ไม่มีค่ะ อาจารย์ ) เอาล่ะ ดี ดังนั้นพวกคุณล้วนมีความสุข? (ค่ะ อาจารย์ ขอบคุณท่านค่ะ) สองคนและคนที่ไม่อยู่ ก็โหวตด้วย งั้นก็ดี คุณสองคน แต่ว่าเสียงหัวเราะ ดังมากและมีความสุข ฉันคิดว่า พวกเขามีมากกว่าสองคน เวลาที่คุณหัวเราะพร้อมกัน มันฟังดูเหมือนมากกว่าสองคน อาจจะเสียงสะท้อนด้วย ฟังดูดี พวกคุณทำได้ดีจนถึงเวลานี้ และฉันขอบคุณทุกคน ในนามของพระเจ้า เอาล่ะ (ขอบคุณค่ะ ท่านอาจารย์) พระเจ้าอวยพรเรา มีแต่พระเจ้าอวยพรเรา เราจึงทำต่อได้ (ค่ะ อาจารย์) แต่เราก็ต้องอยู่ตรงนั้น เพื่อพระพรของพระเจ้า (ค่ะ) การนั่งสมาธิ ทำให้เราเชื่อมต่อได้มากขึ้น กับจักรวาลทั้งหมด และพลังนั้นเราสามารถพึ่งพาได้ (ค่ะ อาจารย์) มิฉะนั้นแล้ว พลังของโลกนี้จะท่วมท้นเรา คุณเข้าใจหลักเหตุผล แล้วใช่ไหม? คุณเข้าใจ? (ค่ะ ค่ะอาจารย์)

ถ้าเราไม่ได้รับการคุ้มครอง โดยพลังของจักรวาล พลังอันยิ่งใหญ่ เราก็จะโดนพลังลบ ของโลกนี้ปกคลุม ถึงแม้ว่ามารและ พลังของมาร หมดไปแล้ว แต่พลังลบยังคง มีอยู่ในมนุษย์ (ค่ะ) มันไม่ใช่แค่ใช้เวลาหนึ่งนาที เพื่อชำระล้างได้หมด ไม่ ไม่ ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น พวกเขามีกรรมเช่นกัน และสิ่งอื่น ๆ ด้วยเชื่อมโยงกัน เพื่อกักพวกเขาไว้ในโลกนี้ มิฉะนั้นแล้ว ถ้าล้างหมด พวกเขาก็ไปหมด ไม่ว่าจะไปนรกหรือไปสวรรค์ พวกเขาต้องไป ถ้ากรรมของพวกเขาล้างหมด พวกเขาก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นพลังลบทั้งหลายนี้ เรายังต้องเจอ อย่าปล่อยให้มันปกคลุมคุณ โดยเราต้องสวมใส่พลังของจักรวาล (ค่ะ) คุณสวมใส่มันไว้เสมอ ทุกเวลาโดยการนั่งสมาธิ เพื่อให้มันเข้มแข็งขึ้น (ค่ะ อาจารย์) ก็เหมือนเสื้อผ้าของเรา เราต้องคอยดูแลมันเสมอ หรือไม่ก็ซ่อมแซม มิฉะนั้นมันจะฉีกขาด (ค่ะ อาจารย์) ต้องปะชุน หรือตัดชุดใหม่ ขอบคุณ

ฉันพูดเร็วมาก ฉันคงจะอยู่ในกินเนสส์บุ๊กได้ เพราะฉัน มีงานต้องทำเยอะเกินไป ฉันไม่เคยพูดเร็ว และพูดมากอย่างนี้มาก่อน ที่จะใช้ออฟฟิศนี้ ฉันแปลกใจตัวเอง เมื่อมองย้อนกลับไป ตอนสมัยวัยรุ่นหรือก่อนนั้น BM หมายถึง “ก่อนเป็นอาจารย์” ฉันไม่เคยพูดได้แบบนั้น และพูดมากและเร็วมาก เอาล่ะ ที่รัก พระเจ้าอวยพรคุณ ทุกคน (ขอบคุณค่ะ ท่านอาจารย์) พระเจ้าคุ้มครองพวกคุณ (ขอบคุณท่านค่ะ ท่านด้วยค่ะ)

ทีมครัว พวกเขาอาจจะนั่งสมาธิ เวลาเดียวกับพวกคุณไม่ได้ เพราะพวกเขาต้องทำอาหาร (ค่ะ อาจารย์) พวกเขาต้องเตรียมอาหาร ไว้ล่วงหน้า และอื่น ๆ ก่อนทำอาหาร ดังนั้นมันใช้เวลา ฉันคิดว่าพวกเขา ไม่สามารถนั่งตามเวลาของคุณ มันดีเฉพาะสำหรับทีมโทรทัศน์ สุพรีมมาสเตอร์ (ค่ะ อาจารย์) แต่ก็ต้องบอกเรื่องนี้ให้ทีมครัว บอกพวกเขานั่งสมาธิอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ตามเวลาของพวกเขา (ค่ะ อาจารย์) เพราะพวกเขาทำงานอีกแบบ เพื่อความอยู่ดีกินดีของพวกคุณ พวกเขาต้องเสียสละ เวลาที่ดีที่สุดของการนั่งสมาธิ (ค่ะ อาจารย์) ดังนั้นบอกพวกเขา อย่างน้อย แล้วคัดลอกอะไรก็ตาม ที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา (ค่ะ อาจารย์) รวมทั้งฉันที่บอกว่า ทีมครัวต้องนั่งสมาธิอย่างน้อย สี่ชั่วโมงเหมือนกัน (ค่ะ อาจารย์) รวมอันนี้ด้วย พร้อมเสียงต้นฉบับที่ฉันพูด และส่งต่อให้พวกเขา เพื่อพวกเขาจะได้ดูด้วยกัน (ค่ะ อาจารย์) เอาล่ะ ขอบคุณ ที่จริงแล้วทุกคน ที่เกี่ยวข้องใน งานสาธารณะใดก็ตาม ทำงานให้คนอื่น ทำงานให้อาจารย์ ต้องนั่งสมาธิวันละ 4 ชั่วโมง อย่างน้อย (ค่ะ อาจารย์)

ขอบคุณ เอาล่ะ แค่นี่ ที่รัก (โอเค ขอบคุณค่ะ ท่านอาจารย์) ขอบคุณพวกคุณ ที่ยังอยู่ที่นี่ ภายในของคุณต้องมีความจริงใจ อยู่มากเหมือนกัน เพื่อทนกับความกดดันเหล่านี้ ใช่ เราจึงจะเข้มแข็งขึ้น (ค่ะ อาจารย์) แน่วแน่ขึ้นในการนั่งสมาธิ อยู่กับ พลังของจักรวาลมากขึ้น เราจึงสามารถอยู่ใน เกราะป้องกันอันทรงพลังนี้ได้ (ค่ะ อาจารย์) เอาล่ะ พระเจ้าอวยพรคุณทุกคน (ขอบคุณค่ะ ท่านอาจารย์) ฉันรักและขอบคุณพวกคุณ (พวกเรารักท่านเช่นกันค่ะ อาจารย์)