ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

ความเป็นหญิงอันสูงส่ง ตอนที่ 17 จาก 20 ตอน

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ในเมืองเอาหลัก (เวียดนาม) มีเรื่องเล่าหนึ่ง ฉันย้อนกลับไปหา แม่ชีที่เล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง มีเรื่องเล่ากันว่า มีวัดใหม่เพิ่งสร้างเสร็จ สวยงามและสะอาดตา และชายหนุ่มจำนวนมาก ได้เข้ามาบวชเป็นพระภิกษุ ด้วยอุดมคติอันสูงส่ง และความปรารถนาอันสูงส่ง แต่คนมากมายมาที่วัดนั้น และนำของดี มาถวายมากมาย ดีเกินไป ดีเกินไป แล้วเจ้าอาวาสวัดก็กล่าว แก่ภิกษุเหล่านั้นว่า “โอ้ คุณเป็นเขียง และพวกเขาเป็นมีด ถ้าคุณไม่ฝึกฝนจริง ๆ ต่อไป อย่างจริงจัง จริงใจ พวกเขาจะฆ่าคุณ จนคุณไม่มีอะไรเหลือเลย” และต่อมาไม่นานนัก พระภิกษุทั้งหลาย ก็กลับไปเป็น ฆราวาสอีกครั้ง แต่งงาน มีลูก มีครอบครัว ฯลฯ นั่นคือเรื่องจริง ที่ครูแม่ชีของฉันเล่าให้ฉันฟัง

นั่นคือเหตุผลที่ฉันบอกคุณว่า เธอสอนหลาย ๆ อย่างให้ฉัน เธอเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฉันฟัง เธอยังบอกฉันอีกว่า “ระวังไว้ด้วย อย่าอยู่คนเดียวในห้องเล็ก ๆ นั้น ในค่ายผู้ลี้ภัย” แต่ฉันต้องทำ ฉันไม่มีใคร อยู่ด้วยเลย ฉันชอบที่จะอยู่คนเดียว ฉันถามว่า “ทำไม?” เธอกล่าวว่า “โอ้ ผีพวกนั้น จำนวนมาก มักจะเข้าไปในห้องน้ำว่างและนั่ง อยู่ตรงนั้นตอนกลางคืนเหมือนกัน” ฉันบอกว่า “ฉันไม่เห็นเลยค่ะ” หรือว่าพระพุทธเจ้า บังตาฉันไว้ ไม่ให้กลัว หรือพระพุทธเจ้าทรงโยนมันออกไป เพื่อไม่ให้ฉันกลัว แล้วฉันก็ยังคงอยู่ที่นั่นต่อไป

เธอสามารถมองเห็นผีได้ และเธอสามารถมองเห็นสิ่งที่คุณคิด และสิ่งที่คุณรู้สึกได้เช่นกัน เธอมีพลังจิต มองเห็นล่วงหน้า ไม่ครบถ้วน แต่เพียงบางส่วน

และพระภิกษุอีกรูปหนึ่ง ก็อยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นค่ายส่วนตัวมากกว่า ในอาคารส่วนตัวร่วมกับ ผู้ลี้ภัย ชาวเอาหลัก (เวียดนาม) คนอื่น เขาล่วงรู้อนาคตของฉันแล้ว เขาบอกว่า ฉันจะโด่งดังไปทั่วโลก ฉันจะยิ่งใหญ่ทางจิตวิญญาณมาก นั่นคือทั้งหมด ที่เขาบอกฉัน และตอนนั้นฉันก็คิดว่า เขาใจดีเกินไป เพราะฉันเป็นชาวพุทธ ที่เคร่งครัดมาก ฉันได้ถวายเครื่องบูชาแด่ภิกษุสงฆ์ มีภิกษุและภิกษุณีจำนวนมาก มาที่บ้านของฉันด้วย และฉันก็ปฏิบัติ ต่อพวกเขาเหมือนพระพุทธเจ้า ฉันไม่ได้เรียกพวกเขาว่าพระพุทธเจ้า แน่นอน ฉันเรียกพวกเขาว่าอาจารย์นั่นนี่ แล้วฉันก็เรียกตัวเองว่า “ลูกของท่าน” ในเอาหลัก (เวียดนาม) เราไม่เพียง แค่เรียกใครว่า "อาจารย์" เท่านั้น อาจารย์คือ “ซือ” “ฟู่” แปลว่า พ่อหรือแม่ หรือถ้ามีภิกษุณี ก็จะเรียกว่า “ซือกู” แปลว่า “อาจารย์ป้า” และ “ซือฟู่” แปลว่า “อาจารย์พ่อ” แล้วคุณก็เรียกตัวเองว่า “ลูก” “ลูกของท่าน”

โอ้ ฉันพูดถึง เรื่องมากมาย ฉันหวังว่า คุณจะสามารถย่อยพวกมันทั้งหมดได้ ช่างเถอะ คุณไม่รู้หรอกว่า ฉันจะไม่มีโอกาสได้ บอกคุณอีกเมื่อไร ฉันถือว่า วันของฉันทุก ๆ วัน เหมือนเป็นวันสุดท้ายของฉัน อะไรก็ตามที่ฉันสามารถทำได้ ฉันก็ จะทำ และหากบางคนในหมู่พวกคุณ ไม่ฟัง ไม่เชื่อ ยังมีอีกหลายคนที่อาจฟัง อาจเชื่อ และอาจช่วย วิญญาณของตนเองได้ และอาจมีคุณธรรมมากขึ้น มีศีลธรรมมากขึ้น เหมาะสม ที่จะเป็นมนุษย์ที่แท้จริงมากขึ้น และ ยังทำให้สังคมปลอดภัยมากขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้นในการดำรงชีวิต และวิญญาณของพวกเขาก็จะ ได้รับการชำระล้าง และมันจะดีกว่า สำหรับพวกเขาด้วยเช่นกัน ฉันก็แค่พูด และใครก็ตามที่ฟัง ก็จะฟัง ดีสำหรับพวกเขา ใครไม่ฟัง ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่ต้องการอะไร ฉันจึงไม่กลัวที่จะสูญเสียอะไร หากคำพูดของฉันอาจช่วยคุณได้ ฉันขอขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ขอบคุณอาจารย์ทุกท่าน คุณไม่ต้อง ขอบคุณฉันเลย พระองค์สร้างแรงบันดาลใจให้ฉัน และก่อนจะพูดคุย ฉันจะสวด ภาวนาเสมอ สรรเสริญพระองค์ ให้พูดผ่านฉัน “อย่าปล่อยให้ฉันพูด โดยใช้มาตรฐานทางโลก หรืออัตตาเพียงอย่างเดียว”

ฉันไม่คิดว่า การพูดใด ๆ เป็นการพูดคุยที่แท้จริงของฉัน บางครั้งฉันก็แทรก มาตรฐานความเป็นมนุษย์บ้าง พูดตลกบ้าง ฯลฯ แต่ฉันไม่คิดว่า ฉันกำลังสอนใครอยู่จริง ๆ ฉันขอบคุณพระเจ้าเสมอ ที่ให้ฉันพูด ในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และแม้แต่ชาวสัตว์ ก็ยังฟังอีกด้วย แต่ไกล ๆ วิญญาณของพวกเขาก็สามารถฟังได้

ชาวสัตว์ ใจดีกับฉันมาก ทุกที่ที่ฉันไป มีชาวนกมาบอกฉัน เรื่องนี้เรื่องนั้น เมื่อฉันวิตกกังวลเรื่องโลก หรือเรื่องอื่น ๆ พวกเขาจะเข้ามาบอกข่าวดีกับฉัน แต่ฉันไม่สามารถบอกคุณได้ เมื่อถึงเวลา คุณจะรู้เอง แม้กระทั่งชาวหนูและทั้งหมดนั้น

ครั้งหนึ่ง ฉันพักอยู่นอกเมือง แต่ในชานเมือง ที่มีบ้านอื่น ๆ อยู่รอบ ๆ และฉันก็เลี้ยงชาวหนู ฉันให้อาหารชาวนก แต่ชาวหนูก็มา กินอาหารด้วยกัน และเพื่อนบ้านเห็นเข้า ก็แจ้งความ ดำเนินคดี และพวกเขาก็เขียนจดหมายถึงฉัน พวกเขาไม่ได้ดุฉันหรืออะไรเลย พวกเขาเป็นคนดีและสุภาพมาก พวกเขากล่าวว่า “อย่าให้อาหารพวกมันเลย เพราะชาวหนูจะมากิน และหนูอาจจะนำโรคมาสู่คุณ และเพื่อนบ้านของคุณได้ ดังนั้น โปรดอย่าให้อาหารพวกเขา” เพราะถ้าฉันยังให้อาหารพวกเขาต่อไป พวกเขาก็คงจะสร้างปัญหา นั่นเป็นเรื่องแน่นอน ในตอนแรก พวกเขาสุภาพ และเขียนถึงคุณอย่างดี แต่ต่อมา พวกเขาจะก่อปัญหาให้คุณ คุณอาจถูกปรับ หรือจำคุกก็ได้ ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ฉันไม่รู้มาก เกี่ยวกับกฎหมายของประเทศ ฉันรู้กฎหมายไม่มากนัก ฉันเลยหยุดให้อาหารพวกเขา

และฉันก็บอกว่า ฉันรู้สึกเสียใจ เป็นอย่างยิ่งต่อชาวนกทุกตัวที่อยู่ รอบตัวฉันและชาวหนูด้วยเช่นกัน และฉันก็ถามพวกเขาอยู่เรื่อยว่า พวกเขาโอเคไหม พวกเขาบอกว่า พวกเขาโอเค เหมือนกับชาวนกนางนวล ซึ่งปกติแล้ว พวกเขาไม่ชอบไปกินชาวปลา พวกเขาว่า มันเหม็น แต่หลังจากนั้น ถ้าฉันไม่ให้อาหาร พวกเขา พวกเขาก็จะไปกินสิ่งนั้น ฉันรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง พระเจ้า หัวใจฉันแทบจะแตกสลาย แล้วฉันก็ถามว่า “แต่คุณโอเคไหม?” พวกเขากล่าวว่า “ใช่ เราโอเค ไม่ต้องกังวล" และชาวหนู ฉันก็ถามหนูเหมือนกันว่า “จะทำอย่างไรต่อไป? คุณมาทุกวัน เพื่อทานอาหารอย่างสบาย ๆ แล้ว ตอนนี้คุณสามารถทำอะไรได้บ้าง? คุณมีอาหารกินไหม?” พวกเขาบอกว่า "ไม่ต้องกังวล เราจะหาอาหาร เรารู้ เราสามารถดูแลตัวเองได้” และ ชาวสุนัขจิ้งจอกก็บอกฉันถึงเรื่องราว ทำนองเดียวกันนี้ด้วยความรัก และพยายามปลอบโยนฉัน แทนที่จะตำหนิฉัน ที่ไม่ให้อาหารพวกเขา แต่ฉันรู้สึกเศร้าโศกตลอดไป

แต่ในสังคม ในประเทศที่คุณอาศัยอยู่ แม้ว่าจะประเทศคุณ หรือไม่ใช่ประเทศคุณก็ตาม คุณก็ต้องเคารพกฎหมาย หากคุณรู้กฎหมายนี้แล้ว คุณก็ต้องเคารพมัน เว้นแต่ว่าคุณไม่รู้ และกระทำสิ่งที่ผิด โดยไม่รู้ตัว คุณยังต้อง รับโทษอยู่ หลังจากนั้น ฉันก็รู้สึกเสียใจมาก ฉันยังคงรู้สึกเสียใจ อยู่ตลอดเวลาจนถึงตอนนี้ แต่ฉันย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว พวกเขาก็ยัง มาคุยกับฉัน พวกเขายังคงบอกฉันว่า "โอ้ นี่ดี นั่นดีไหม?" หรือ "ระวังอันนี้ ระวังอันนั้น" ฉันไปที่ไหน พวกมันก็มา แม้ว่าฉันจะไม่ให้อาหารพวกเขาก็ตาม ฉะนั้น ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหน หากฉันเห็นผู้คนให้อาหาร (ชาว) นก และ (ชาว) หนู ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม เนื่องจาก พวกเขามีสวนที่ใหญ่กว่า พวกเขาใช้ชีวิตกันเป็นส่วนตัวมากขึ้น พวกเขาสามารถให้อาหารพวกเขาได้ ฉันมีความสุขมาก ๆ และฉันก็หวังว่า พวกเขาจะสบายดี ฉันพูดว่า “ขอพระเจ้าอวยพรคุณ ขอพระเจ้าอวยพรคุณ” ฯลฯ

แต่คุณเห็นไหมว่า ในโลกนี้ เรามีกฎเกณฑ์ทางโลก ดังนั้น ในจักรวาล เราก็มีกฎจักรวาลด้วย เราต้องปฏิบัติตามกฎหมายทุกฉบับ เพื่อความอยู่รอด แต่หากจิตวิญญาณของคุณ ได้รับการปลดปล่อยแล้ว คุณมาถึงบ้านที่แท้จริงแล้ว – ดินแดนแห่งพระพุทธเจ้า – บ้านแห่งสวรรค์ – แล้วคุณจะไม่ต้องกังวล หรือกลัวเรื่องใด ๆ อีกต่อไป พวกเขาไม่มีกฎหมายแบบนั้น เขาไม่ มีพจนานุกรมที่บอกว่า “ทุกข์” หรือ “ความเจ็บปวด” หรือ “กฎเกณฑ์” หรือ “กฎหมาย” ไม่มีอะไรเลย เพราะทุกคนอาศัยอยู่ในสวรรค์ ดินแดนพระพุทธเจ้า มันเป็นเรื่องดีมีความสุข และมีความสุขตลอดเวลา สิ่งที่คุณทำคือ เดินเล่น หรือไปเยี่ยมเพื่อนบ้าน หรือไปสักการะพระพุทธเจ้า กินข้าว และคุณไม่จำเป็นต้องเดิน หรือขึ้นรถบัสด้วยซ้ำ คุณเพียงแค่บิน คุณแค่เดินอยู่บนเมฆ เป็นต้น มันขึ้นอยู่กับว่า คุณอยู่ในดินแดนใด หรือคุณมีเข็มขัดอยู่ที่หน้าท้อง แล้วคุณเพียงแค่กดปุ่ม แล้วคุณก็บินได้อย่าง ปลอดภัยและนุ่มนวล เหมือนกับว่า คุณกำลังเดินอยู่บนอากาศ หรือคุณเดินบนเมฆ แล้วบอกเมฆว่า คุณอยากไปที่ใด จากนั้น เมฆจะพาคุณไปที่นั่น

แล้วคุณก็มีบ้าน แต่ละคนมีบ้านใหญ่ บ้านใดก็ตามที่ใหญ่ ที่สุดในโลก ก็ไม่ใหญ่เท่ากับ บ้านของคุณในดินแดนพระพุทธเจ้า เป็นต้น ดินแดนพระอมิตาภพุทธเจ้า แม้จะเหมือน คุณอยู่ในดอกบัวก็ตาม แต่ดอกไม้นั่นเป็นรูปดอกไม้ แต่มันคือบ้านของคุณ! ดอกไม้ใหญ่ ดังนั้น มันไม่เหมือนดอกบัวเล็ก ๆ หรือบ้านเล็ก ๆ เลย แต่ใหญ่โต เพราะที่นั่น คุณก็ใหญ่เหมือนกัน และคุณก็ต้องการพื้นที่ด้วย คุณ ไม่จำเป็นต้องมีบ้านหลังนั้นด้วยซ้ำ มันแค่ว่า ทุกคน ได้รับหนึ่งหลังเพื่อที่คุณจะสามารถ นั่งที่นั่นและทำสมาธิเพื่อที่ คุณไม่ถูกรบกวนจากสิ่งใด ๆ ในดินแดนเช่นนี้ คุณจะมีแต่ความสำราญและความสุข สิ่งที่คุณต้องการ จะมาหาคุณโดยอัตโนมัติ คุณคิดถึงอะไรบางอย่าง แล้วมันก็เกิดขึ้น แต่คุณก็คง ไม่ต้องการมันมากเกินไปอยู่ดี อะไรก็ได้ – คุณแค่รู้สึกพอใจ และอะไรก็ตาม ที่คุณต้องการ ง่ายมาก มันจะมาหาคุณ ไม่ว่าคุณจะต้องการอะไรก็ตาม

ทั้ง (ชาว) นก ชาวสัตว์ต่าง ๆ ที่นั่น ล้วนงดงาม มีแสงสว่างอยู่รอบตัว และพวกมันก็ร้องเพลง พวกเขาเตือนให้ทุกคนบำเพ็ญ เพื่อก้าวไปสู่จุดที่สูงกว่า บางทีอาจไม่ใช่เพราะคุณจะต้อง เป็นพระพุทธเจ้าหรืออะไรก็ตาม แค่ว่าถ้าคุณเป็นพุทธะ คุณก็รู้สึกดี คุณรู้สึกดีขึ้นเกี่ยวกับ ความสำเร็จของคุณเอง แล้วคุณจะสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ เช่น ญาติพี่น้องหรือเพื่อนของคุณ ที่ยังถูกทิ้งอยู่ ในโลกแห่งความทุกข์ หรือแม้แต่ในนรกด้วย ส่วนใหญ่แล้ว หากคุณบรรลุถึง ระดับจิตสำนึกที่สูงขึ้นกว่า คนในตระกูลของคุณหลายรุ่น และครอบครัวของคุณก็จะเป็นอิสระ และจะไม่ตกนรก แต่บางทีพวกเขาบางคน หรือหลายคน ก็ไม่ได้ปฏิบัติตามพุทธศาสนา หรือไม่ปฏิบัติตามพระคริสต์ หรืออาจารย์อื่น ๆ ทำสิ่งที่ไม่ดี แล้วก็ต้องถูกลงโทษในนรก แล้วจากแดนพุทธภูมินั้น คุณก็จะมองเห็นทั้งสวรรค์ โลก และนรก และคุณอาจจะ เห็นญาติพี่น้องหรือสมาชิก ในครอบครัวของคุณ หรือแม้แต่บิดามารดาของคุณ ที่กำลังทุกข์ทรมานอยู่ในนรกก็ได้ แล้วคุณสามารถลงมา เสียสละช่วยพวกเขาได้

Photo Caption: เวลาทองเป็นสิ่งที่หาได้ยาก ในโลกที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จงเพลิดเพลินกับมันในขณะที่ยังมีอยู่
รับชมเพิ่มเติม
ทุกตอน  (17/20)
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
38:04

ข่าวเด่น

1 รับชม
2024-12-20
1 รับชม
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์