รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
โอ้ อีกอย่าง ฉันเพิ่งจำได้ว่าฉัน อยากบอกคุณว่าภายในสี่วัน ฉันมีสามทางเลือก ทางเลือกหมายเลขหนึ่งคือที่สุด นั่นคือฉันจะถูกฆ่า เพราะพลังด้านลบ จะใช้วิธีที่น่าเศร้าสลดบางอย่าง เพื่อฆ่าฉัน จากนั้นฉันก็อาจแค่ตาย และจะไม่มีใครอยู่ เคียงข้างฉันเพื่อช่วยฉัน หรือรู้เรื่องนี้จนกว่า จะนานแสนนานในภายหลัง ฉันไม่เห็นว่าเมื่อไหร่ อีกทางเลือกหนึ่งคือฉันต้องไป ไกล ๆ ที่ไม่มีใคร รู้จักฉัน หวังว่า พลังด้านลบจะ ไม่พบคนที่เหมาะสม ที่จะฆ่าฉันที่นั่น ตัวเลือกหมายเลขสาม... ฉันต้องหยุดสักพัก โอเค ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้วตอนนี้ ฉันเพียงสะเทือนใจมากเกินไป จนต้องหยุดสักพักทางเลือกที่สาม เป็นทางเลือกที่ดี ทางที่โชคดี ที่ฉันอาจจะมีชีวิตอยู่ ที่ฉันจะมีชีวิตอยู่ และอยู่กับคุณต่อไป และแบ่งปันคำสอน จากสวรรค์ให้กับคุณ และฉันอาจจะได้ บอกอะไรกับคุณ ที่ฉันได้รับอนุญาตให้บอกเล่า โดยพระคุณของ เหล่าพระพุทธเจ้าและพระเจ้า แม้แต่ในร่างกาย ก็ไม่มีอาจารย์คนใดสามารถบอกคุณ ได้ทุกสิ่ง พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า สิ่งใดก็ตามที่พระองค์ตรัสแก่พวกเขา สาวกทั้งหลายนั้น เป็นเพียงใบไม้ ในพระหัตถ์ของพระองค์เท่านั้น เมื่อเทียบกับใบไม้ทั้งป่า บนดาวเคราะห์ของเรา เพื่อให้คุณรู้ว่าพระองค์ทรง บอกได้มากเพียงใดและ พระองค์ยังบอกไม่ได้มากเพียงใด นอกจากนี้เพราะ มันใช้เวลานานและ ความสามารถทางกายภาพ ของลูกศิษย์ ก็ไม่ได้เฉียบแหลมพอ ที่จะเข้าใจทุกสิ่งเสมอไปโปรดจำไว้ว่าครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ พุทธอุปัฏฐากที่อุทิศตนที่สุดของพระองค์ ว่าพระองค์ พระพุทธเจ้า ทรงได้รับพลังวิเศษบางอย่าง ที่พระองค์จะสามารถ อยู่ในโลกกายภาพนี้ได้ตลอดไป หากเราต้องการ แล้วพระองค์ทรงถามพระอานนท์ ครั้งแรก พระอานนท์ก็ เหมือนง่วง ไม่ได้ยิน ไม่พูดอะไร ครั้งที่สอง พระอานนท์ก็ไม่ได้ยิน ไม่ตอบ ไม่มีปฏิกิริยาแต่อย่างใด ครั้งที่สามพระพุทธเจ้า ตรัสถามอีกครั้ง พระอานนท์ก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน หากท่านพูดว่า “โอ้ ได้โปรด พระผู้มีพระภาคเจ้า โปรดอยู่กับเราตลอดไป เพราะเราต้องการพระองค์” พวกเรา สิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึก ที่นี่ ในโลกสังสารวัฏที่ทุกข์ทรมานนี้ ต้องการพระองค์มาก” แต่ท่านไม่พูดอะไรเลยหลังจากนั้น กษัตริย์มายา จึงมาทูลพระพุทธเจ้าว่า “โอเค อีกสามเดือน พระองค์จะต้องจากโลกนี้ไป เพราะไม่มีใครต้องการพระองค์” คุณเห็นไหมว่าทุกสิ่ง ที่พระพุทธเจ้าขอหรือ พระศาสดาตรัสขอนั้น เกินสามครั้งไม่ได้ หากคุณไม่ตอบ นั่นคือเหตุที่พระพุทธเจ้า ทรงจากเราไป นี่คือความเศร้าใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในใจของฉัน หากพระพุทธเจ้ายังทรงอยู่ที่นี่ โลกของเราคงจะ ดีกว่านี้มาก เป็นสวรรค์สำหรับทุกคนได้มีความสุข เพราะถ้าพระพุทธเจ้า ยังทรงอยู่ทางกายภาพ อยู่ในโลกของเราต่อไป พระพุทธเจ้าก็คง ไม่ได้สอนสาวกเพียงไม่กี่พันคน แต่จะสอนสาวก มากขึ้นเรื่อย ๆ และพระเมตตา พระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ ก็จะเผยแพร่ไปทั่วโลก แล้วโลกของเรา ก็จะเปลี่ยนไปในปัจจุบันนี้ เรามี เทคโนโลยีขั้นสูง ความสะดวก และการคมนาคมขนส่งเพิ่มมากขึ้น เพื่อว่าคำสอนของพระพุทธเจ้า จะไม่ได้แค่ถูกพิมพ์ แบบโบราณ ในหนังสือบางเล่มที่ไหนสักแห่ง ในห้องสมุดหรือในวัดบางแห่งเท่านั้น แต่จะถูกเผยแพร่ ไปทั่วดาวเคราะห์ ฉันหมายถึง ไม่ใช่ เพราะภิกษุและแม่ชีทุกคนท่องมัน แต่เพราะด้วยพระวจนะ ของพระพุทธเจ้า ด้วยพระองค์เอง ด้วยเสียงของพระองค์เอง จะมีพลังมหาศาล ในการปลุกผู้คน ไม่อย่างนั้น ถ้าเพียงแค่อ่านพระสูตร เราก็รู้แจ้ง และเปลี่ยนแปลงโลก เราก็คงจะทำ ไปนานแล้วเพราะ มีผู้นับถือศาสนาพุทธ หลายล้านคน พระและแม่ชี อาจจะ หลายแสนหรือหลายล้านคน กำลังท่องพระสูตร ทุกวัน และไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลงในโลกของเรา มันมีความแตกต่างเมื่อ พระศาสดาตรัสเองเช่นนั้น เพราะทุกสิ่งที่เกิดจาก พระศาสดาผู้ตรัสรู้ เช่นพระพุทธเจ้าหรือพระเยซูเจ้า จะมี โอ้ พระเจ้า พลังมหาศาลในการปลุก หัวใจ ความคิด และจิตวิญญาณที่อยู่ ในผู้คนและ สรรพสัตว์อื่น ๆ ด้วย ให้ตื่นขึ้น มันไม่เหมือนกันกับ ตอนที่คุณท่อง ด้วยเสียงของคุณเอง เพราะคุณไม่มีพลังมากพอ ที่จะถ่ายทอดผ่านคำพูดของคุณ ออกไปสู่โลกภายนอก สู่คนภายนอก คุณรู้เองอยู่แล้วยังไงก็ตาม อย่ากังวลกับมันมากเกินไป ฉันแค่แจ้งให้คุณทราบ เผื่อไว้ คุณเห็นไหม ราชาแห่งกรรม ได้แจ้งให้ฉันทราบทั้งหมด: เกี่ยวกับสถานการณ์ ความเป็นความตายสี่วันของฉัน และท่านยังเปิดเผยแก่ฉัน ถึงหนทางที่จะเอาชนะ อันตรายอันน่าสลดใจนี้ ที่มายาจะกำหนดแก่ฉัน - ด้วยพลังช่องว่างแห่งกรรม หรือพลังด้านลบ แต่ฉันไม่แน่ใจ... ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถทำได้ แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจ 5% หากพูดในแง่บวก ฉันพยายามเชื่อว่าฉันทำได้ แต่ใครจะรู้ว่ากรรมของโลก จะถูกเพิ่มเข้ามาใน สถานการณ์ของฉันด้วยหรือไม่ - ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ต้องบอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจในกรณีที่ทางเลือกที่หนึ่ง ประสบความสำเร็จ และทางเลือกที่สอง และที่สามล้มเหลว โปรดทราบว่า ฉันรักคุณมาก ตลอดเวลา ทุกเวลา ฉันรักคุณเสมอไม่ว่าที่นี่ หรือในสวรรค์ ต่ำหรือสูง หรือสวรรค์ของฉันเองเบื้องบน ฉันจะอยู่กับคุณเสมอ ช่วยเหลือคุณ สนับสนุนคุณ ปกป้องคุณ ช่วยคุณ และยกระดับคุณ ในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ ฉันจะไม่ทิ้งคุณไปไหน เลย แต่จงพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้คู่ควร กับนักบุญและปราชญ์ทั้งหลาย ซึ่งหมายถึงเหล่าพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ในทุกทิศทาง ทุกยุคทุกสมัย และพลังของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ ที่พยายามช่วยเหลือคุณ โปรดทำตนให้มีค่าคู่ควร พยายามอย่างดีที่สุดของคุณ แค่นั้น แค่นั้นที่คุณต้องทำ พยายามอย่างเต็มที่ที่สุดของคุณสมมติว่ามีบางอย่าง เกิดขึ้นกับฉัน และคุณจะไม่ได้ยินจากฉัน ไม่ได้เจอฉันอีก ดังนั้น โปรดบำเพ็ญต่อไป ให้มากที่สุดที่คุณจะทำได้ แล้วคุณก็ทำ โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ต่อไป จนกว่าคุณจะทำไม่ได้ คุณได้รับการฝึกฝน มาหลายปีแล้ว และคุณรู้ว่าคุณควรทำอย่างไร ถ้าฉันไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกต่อไป เพื่อตักเตือนคุณ ชี้แนะคุณ หรือเสนอสิ่งใหม่ ๆ แก่คุณ หรือช่วยเหลือคุณ ในทางกายภาพใด ๆ อีกต่อไป ฉันจะทำเช่นนั้นทางจิตวิญญาณ ฉันจะอยู่ที่นั่นกับคุณเสมอ เพียงแค่สงบสติอารมณ์ เพ่งไปข้างใน แล้วคุณจะได้ยิน คุณจะเห็น คุณจะรู้สึก คุณจะรู้ว่า ฉันกำลังพยายามบอกอะไรคุณ เพียงแค่บริสุทธิ์ เงียบอยู่ภายใน แล้วคุณจะได้ยิน คุณจะรู้ คุณจะรู้สึกได้ ขอให้คุณได้รับพระพรตลอดไป อาเมน ขอบคุณและส่วนการจากไป ของร่างกายฉันนั้น ถ้าหากเกิดขึ้นจริง ๆ ก็อย่าตำหนิสิ่งใดเลย มันอาจจะเพียง กรรมของโลก ก็ใหญ่โตเกินไปอีกครั้ง และบวกกับ อาคมอันชั่วร้าย และพลังด้านลบด้วย แม่มดหญิงคนนี้ไม่เพียงแค่มี ตัวเธอเองเท่านั้น เธอยังมีผู้ติดตามอีก 510 คน - ปีศาจทั้งหมด ชั่วร้ายทั้งหมด และเลวหมด สิ่งที่เหมือนกันดึงดูดกัน ดังนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อพระพุทธองค์ทรงพระชนม์ชีพ กล่าวกันว่า สำหรับสามเดือนนั้น เพราะกรรมของสาวก หนักเกินไป พระพุทธองค์จึงไม่มีอะไรจะเสวย พระองค์ต้องเสวยอาหารม้า และนั่นคือในอินเดีย ในภาคตะวันออก ผู้คน ยังเคารพพระภิกษุมากกว่า พวกเขาคุ้นเคยมากกว่า กับคำสอนที่อ่อนโยน และพวกเขาได้รับการเลี้ยงดู ให้เคารพผู้ปฏิบัติธรรม แต่ถึงกระนั้น พระองค์ก็ได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น และเกือบจะตาย โดยที่ลูกพี่ลูกน้อง ของพระองค์ กลิ้งก้อนหินใส่พระองค์ หรือต้องการจะฆ่าเขา แต่สามารถตัด นิ้วพระบาทได้เพียงข้างเดียวเท่านั้น และพระเยซูเจ้าทรงถูกข่มเหง นับตั้งแต่พระองค์เสด็จ ออกมาสั่งสอนสัจธรรม และในที่สุดก็ถูกตรึงที่กางเขน บนไม้กางเขนเช่นนั้นเป็นเพราะโลกกายภาพนี้ มีพลังงานหยาบมาก - ไม่ให้อภัย ไม่เมตตาเลย เพราะการกระทำที่รุนแรงของมนุษย์ นานแค่ไหนแล้ว - คุณก็รู้ เราไม่สามารถนับได้ ดังนั้น เป็นครั้งคราว มีการพังทลายของระบบ เช่น การระบาดใหญ่ โรคระบาด การทำลายล้างจากภัยพิบัติ สงคราม ฯลฯ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชำระล้าง กรรมทั้งหมดของดาวเคราะห์ได้ ตอนนี้มีช่วงเวลา สำคัญเกิดขึ้น - บางทีเราอาจกำลังเผชิญกับจุดจบ เทวดาทั้งหลาย สวรรค์ทั้งหลาย พระพุทธเจ้าและอาจารย์ทั้งหลาย แม้กระทั่งพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ ต่างพยายามช่วยเหลือพวกเรา แต่เราจำเป็นต้องนำ เครื่องมือที่สามารถช่วยเราได้ เราต้องใช้วิธีที่ทำให้ เรามีอิสระในการหลบหนี แต่เราไม่ทำ เราไม่ทำ เพราะถ้าเราสร้างความรุนแรง ความรุนแรงจะกลับมาหา เราเหมือนบูมเมอแรง เหมือนกับว่า "คุณหว่านอะไร คุณก็ต้องเก็บเกี่ยวอย่างนั้น"และผู้ช่วยเหลือทำได้เพียงพยายาม อย่างเต็มที่และหลั่งน้ำตาเท่านั้น พวกเขาทำในสิ่งที่พวกเขาทำได้ แต่เราเป็นตัวละครหลัก ที่ต้องช่วยตัวเองจริง ๆ ในการแสดงธรรมชาติ แห่งพุทธะที่แท้จริง อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง หากเราไม่รู้จัก หากเรายังไปไม่ถึงพุทธภาวะ อย่างน้อยเราก็ต้อง แสดงความรักความเมตตา ในระดับหนึ่ง และเราต้องแสดงสถานภาพ บุตรธิดาที่เมตตาของพระเจ้า มิฉะนั้น เราจะไม่ได้อะไรเช่นนั้น ถ้าเรายังคงสร้างความรุนแรง ต่อมนุษย์คนอื่นและต่อสิ่งมีชีวิต อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เราก็ไม่สามารถมีสิ่งอื่นใด ตอบแทนได้ ยกเว้น สิ่งที่เราได้หว่านออกไป คุณหว่านอย่างไร คุณก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น กรรมใดที่คุณก่อ คุณก็จะได้รับ ผลเช่นเดียวกันทุกศาสนาก็บอกสิ่งเดียวกัน ศาสนาคริสต์ก็บอกอย่างนั้น ศาสนาพุทธก็บอกแบบนั้น ศาสนาเชนพูดสิ่งเดียวกัน ศาสนาฮินดูพูดสิ่งเดียวกัน อิสลามก็พูดเช่นเดียวกัน เพียงแค่เราต้องหา และฝึกฝนมัน เราต้องหาคำสอนนั้น ในศาสนาของเราเอง และนำไปปฏิบัติ แล้วเราจะได้รู้ มิฉะนั้น นักบุญและปราชญ์ หรือพระพุทธเจ้าก็ทำอะไร ไม่ได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว
